ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (Cost of Trading) มี 3 ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาเมื่อประเมินค่าต้นทุนในการซื้อขายดังนี้
1. สเปรด (Spread)
สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย และถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักในการเปิดรายการซื้อขาย ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณต้องการซื้อขายสกุลเงิน GBP/USD และราคาขาย – ราคาซื้อในเวลานั้นคือ 1.2976 – 1.2977 ความแตกต่างระหว่างราคาขายและราคาซื้อคือ 0.0001 หรือเท่ากับ 1 pip spread ดังนั้นค่าใช้จ่ายสเปรดทั้งหมดในการซื้อขายนี้จะเป็น 1 pip
สำหรับ XTB ข้อมูลสเปรดของแต่ละตลาดแบ่งตามประเภทบัญชีสามารถดูได้ ที่นี่
2. สวอป (Swaps)
หากคุณตัดสินใจถือออเดอร์นานข้ามคืนอาจถูกเรียกเก็บค่าสวอป (swap points) ขึ้นอยู่กับตลาดที่คุณซื้อขายและว่าคุณซื้อหรือขาย ค่าสวอป (swap charge) คือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนรายการซื้อขายจากวันหนึ่งไปยังวันถัดไป ซึ่งค่าสวอปแต่ละผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างกัน และแต่ละโบรกเกอร์ก็มีค่าสวอปที่แตกต่างกันด้วยซึ่งสามารถเช็คได้จากตารางของโบรกเกอร์ที่ใช้งานอยู่ได้เลย โดยถ้าดูในตารางเราจะเห็น 2 ค่า คือ Swap Long กับ Swap Short ซึ่ง swap long คือดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายเมื่อเปิดออเดอร์ Buy ส่วน Swap short คืออัตราดอกเบี้ยที่เราต้องได้รับเมื่อเราเปิดออเดอร์ Sell
คุณสามารถดูตารางอัตราค่าสวอปของ XTB ของเราได้ ที่นี่
3. ค่าคอมมิชชั่น (Commission)
ค่าคอมมิชชั่นจะถูกเรียกเก็บเฉพาะในการซื้อขายหุ้น (equity trades) เท่านั้นสำหรับมูลค่าการซื้อขายต่อเดือนตั้งแต่ 100,000 ยูโร สำหรับหลักทรัพย์ในกลุ่มทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น สกุลเงินต่างประเทศ (FX), ดัชนี (Indices) และสินค้า (Commodities) ค่าคอมมิชชั่นถูกนำมาคำนวณแล้วและรวมอยู่ในสเปรด (spread) อยู่แล้ว คุณสามารถดูรายการค่าคอมมิชชั่นของเราได้ ที่นี่
Source: XTB
สนใจคอร์สเรียน สัมมนาฟรี และข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
Facebook: Bravo Trade Academy Global
YouTube: Bravo Trade Academy
Line@: BravoTradeAcademy
Instagram: Bravotradeacademy
TikTok: @bravo_tradeacademy
Twitter: Toeybravo
Website: www.bravotradeacademy.com