สัญญาณ Divergence เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ก็มีความเสี่ยงหากใช้งานผิดพลาด โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการแยกแยะความแตกต่างระหว่างสัญญาณที่ดีและสัญญาณที่หลอก การใช้ Divergence จึงเปรียบเสมือนดาบสองคม ที่อาจนำไปสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลวได้ในเวลาเดียวกัน
Divergence คืออะไร?
Divergence หมายถึง ความขัดแย้งระหว่างการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action) และเครื่องมือทางเทคนิค เช่น RSI, MACD, หรือ Stochastic โดยทั่วไปแล้ว Divergence จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ Bullish Divergence และ Bearish Divergence ซึ่งสามารถใช้ในการคาดการณ์การกลับตัวของราคา
1. Bullish Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาทำ Low ต่ำลง แต่ Indicator อย่าง RSI กลับไม่ทำ Low ตาม แสดงถึงความอ่อนแอของแรงขาย และอาจจะเกิดการกลับตัวขึ้น
2. Bearish Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาทำ High สูงขึ้น แต่ Indicator ไม่ทำ High ตาม แสดงถึงความอ่อนแอของแรงซื้อ และอาจจะเกิดการกลับตัวลง
ทำไม Divergence ถึงเป็นดาบสองคม?
แม้ Divergence จะเป็นสัญญาณที่สามารถบอกถึงการกลับตัวของตลาดได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความแม่นยำเสมอไป หากใช้งานไม่ถูกต้องก็อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดความผิดพลาดในการตัดสินใจ
1. สัญญาณหลอก (False Signal)
Divergence สามารถให้สัญญาณหลอกได้ ซึ่งหมายความว่าอินดิเคเตอร์อาจจะบ่งบอกถึงการกลับตัว แต่ราคาจริงอาจจะยังคงวิ่งไปในทิศทางเดิม
2. ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ
Divergence เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะตัดสินใจเปิดคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายได้เสมอ การใช้อินดิเคเตอร์อื่นๆ มาร่วมพิจารณา เช่น แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance) หรือการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis) จะช่วยให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. อย่าตัดสินใจบน Divergence เพียงอย่างเดียว
การเทรดบนพื้นฐานของ Divergence อย่างเดียวโดยไม่มีแผนการเทรดที่ชัดเจนอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่เสี่ยง คุณควรใช้ Divergence เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์เพื่อประกอบการตัดสินใจ
วิธีการใช้งาน Divergence อย่างปลอดภัย
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการใช้ Divergence ในการเทรด ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้:
1. หมั่นเช็กความถูกต้อง Divergence ที่ดีมักจะต้องยืนยันด้วยปัจจัยอื่นๆ เช่น การเคลื่อนไหวของราคาตามเทรนด์ การทดสอบแนวรับแนวต้าน เป็นต้น
2.ใช้ Timeframe ที่เหมาะสม
Divergence บน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้นมักจะให้สัญญาณที่แม่นยำมากกว่า Timeframe เล็ก เช่น Timeframe H4 หรือ Day จะมีความน่าเชื่อถือกว่าการใช้ Divergence บน M15 หรือ M5
3. ฝึกฝนและทดสอบ
การใช้ Divergence ต้องอาศัยประสบการณ์ ลองฝึกฝนการทดสอบ Backtest บนกราฟย้อนหลัง เพื่อให้คุ้นเคยและเข้าใจสัญญาณ Divergence มากขึ้น
ประโยชน์ของการใช้ Divergence
1. เครื่องมือในการยืนยันการกลับตัว
Divergence เป็นเครื่องมือที่ดีในการยืนยันการกลับตัวของราคา โดยเฉพาะเมื่อรวมกับการวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆ
2. ช่วยในการหลีกเลี่ยงการสวนเทรนด์
เมื่อ Divergence แสดงถึงการขาดแรงซื้อหรือแรงขาย มันช่วยเตือนให้เทรดเดอร์ระมัดระวังในการเปิดคำสั่งในทิศทางที่ตรงข้ามกับเทรนด์
3. ปรับปรุงการตัดสินใจในการเทรด
การเข้าใจสัญญาณ Divergence จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจในการเปิดหรือปิดคำสั่งซื้อขายได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
สรุป
Divergence เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการคาดการณ์การกลับตัวของราคา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคมที่เทรดเดอร์มือใหม่ต้องระวัง การเรียนรู้และเข้าใจวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง พร้อมกับการทดสอบและฝึกฝนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงจากการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สนใจคอร์สเรียน สัมมนาฟรี และข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
Facebook: Bravo Trade Academy Global
YouTube: Bravo Trade Academy
Line@: BravoTradeAcademy
Instagram: Bravotradeacademy
TikTok: @bravo_tradeacademy
Twitter: Toeybravo
Website: www.bravotradeacademy.com