วันนี้เรามาพูดคุยเกี่ยวกับค่า Spread และเวลาที่ควรพิจารณา Spread เมื่อเราทำการเทรดในตลาด Forex กัน
เวลาเทรดเราจะเห็นกราฟที่มีสองเส้นวิ่งคู่กันตลอดเวลา พร้อมกับแท่งเทียน เส้นสองเส้นที่เห็นบนกราฟคคือเส้น Bid และ เส้น Ask ส่วนค่า Spread คือ ความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ในตลาดการเงินหรือตลาดหลักทรัพย์ ราคา Bid คือราคาที่ผู้ซื้อพร้อมจะจ่ายเพื่อซื้อหลักทรัพย์ เป็นเส้นที่บันทึกราคาลงในกราฟให้เรา ในขณะที่ราคา Ask คือราคาที่ผู้ขายพร้อมจะรับซื้อหลักทรัพย์จากผู้ซื้อ
Spread เป็นส่วนต่างระหว่าง Bid และ Ask ซึ่งตรงนี้คือค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจและใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจว่าจะเข้าทำการซื้อหรือขายในระดับราคาเท่าไหร่ เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความคุ้มค่าในการซื้อขาย ในบางกรณี ราคา Bid และ Ask อาจมี Spread ที่แน่นอนและคงที่ ในขณะที่ในบางครั้ง Spread อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ของตลาดและความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในตลาด
สมมติถ้าเราจะเข้า Order Buy ต้องการวางออเดอร์ Buy Limit เส้น Ask จะมีบทบาทสำคัญในการเปิดออเดอร์ เราจำเป็นจะต้องให้เส้น Ask วิ่งเลยออเดอร์ Buy limit ของเราลงมาถึงจะเปิดออเดอร์ให้ เมื่อถึงเวลา TP เส้น TP อยู่ด้านบนและ SL อยู่ด้านล่าง เมื่อเราต้องการ TP ตามที่กล่าวมา เราจะเปิดด้วยเส้นบน (Ask) และนับกำไรด้วยเส้นล่าง(Bid)เสมอ ดังนั้นหากราคาเคลื่อนขึ้นมา TP เส้นบน (Ask) จะยังไม่ได้ปิดทันที ต้องรอให้เส้นล่าง (Bid) วิ่งมาถึง TP ของเราออเดอร์ถึงจะปิด TP ให้
สำหรับ Sell Limit จะสลับกันกับขา Buy คือ จะใช้เส้นกราฟล่างเป็นเกณฑ์หลักในการเปิดคำสั่งขาย คือต้องให้เส้นกราฟล่าง (Bid) วิ่งผ่านราคาเป้าหมายถึงจะเปิดออเดอร์ Sell Limit จึงไม่ต้องเผื่อ Spread ส่วนเวลาปิดกำไรเมื่อมาถึง TP จะนับด้วยเส้นบน(Ask)เสมอ
สำหรับ SL จะใช้เส้นกราฟบน (Ask) เป็นตัวบังคับหลักเสมอ บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมราคายังไปไม่ถึง SL แต่ทำไมออเดอร์ถูกปิดแล้ว เป็นเพราะว่ามันนับเส้นบน (Ask) เป็นหลักนั่นเอง ระบบการทำงานในการเทรดนี้เป็นกลไกที่นำไปใช้ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นในตลาดหุ้นไทย ตลาดคริปโต หรือตลาดเงินดิจิตอล นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ต้องเข้าใจว่าทำไมต้องมีการกำหนด Stop Loss ถ้าทุกคนมีความรู้แล้วทุกคนเข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงให้เข้าออเดอร์ตรงนี้ต่อให้ออเดอร์นี้ SL ไปเราจะสามารถวางแผนถัดไปได้ทันที
หลายคนสงสัยว่าค่า Spread ถ่างได้ไหม? คำตอบคือได้ โดยหลักการทำงานของ Spread ก็คือ “ยิ่งคนเทรดเยอะยิ่งแคบ” แต่ถ้าวันไหนคนเทรดน้อย ยกตัวอย่างเช่น ช่วงปีใหม่, วันชาติอเมริกา เป็นต้น Spread สามารถถ่างได้ เราจะเห็นว่า Spread วิ่งขึ้นๆลงๆเป็นช่วงๆก็บางวันก็เหลือแค่ 15-20 จุดแล้วแต่ช่วงเวลาด้วย อย่างบางทีช่วงเที่ยงคืนตี 1 Spread เริ่มถ่างขึ้นเพราะว่า Volume น้อยลง หรือถ้าเป็นช่วงคาบเกี่ยวในช่วงที่ตลาดนึงปิดแล้วตลาดอีกโซนนึงกำลังจะเปิดค่า Spread ก็จะถ่างเพราะไม่ค่อยมีคนเทรดนั่นเอง
การเทรดในตลาดนั้นมีความผันผวนเป็นปกติ เทรดเดอร์ควรทราบว่าค่า Spread อาจเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์และเวลาของตลาดเพื่อใช้ในการวางแผนและตัดสินใจเข้าเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ สำคัญที่สุดก็คืออย่าลืมตั้ง TP (Take Profit) และ SL (Stop Loss) ให้เหมาะสมกับแผนการเทรดจะช่วยในการบริหารจัดการความเสี่ยงและกำไรให้เป็นไปตามทิศทางที่คุณต้องการ
สนใจคอร์สเรียน สัมมนาฟรี และข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
Facebook: Bravo Trade Academy Global
YouTube: Bravo Trade Academy
Line@: BravoTradeAcademy
Instagram: Bravotradeacademy
TikTok: @bravo_tradeacademy
Twitter: Toeybravo
Website: www.bravotradeacademy.com