การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือการศึกษาแผนภูมิราคาในอดีตเป็นเครื่องมืออันทรงคุณค่าสำหรับเทรดเดอร์ XAUUSD การเข้าใจวิธีอ่านแผนภูมิเหล่านี้จะช่วยคุณระบุแนวโน้ม จุดเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้น และรูปแบบการเทรดที่สร้างผลกำไรได้ มาแยกย่อยขั้นพื้นฐานกันเลย
1. ประเภทของแผนภูมิสำหรับใช้ในการวิเคราะห์ XAUUSD
แผนภูมิแท่งเทียน (Candlestick Chart): เป็นตัวเลือกยอดนิยม แต่ละแท่งเทียนจะแทนช่วงเวลาที่กำหนดไว้ (เช่น หนึ่งชั่วโมง หนึ่งวัน) รูปร่างและสีของแท่งเทียนเป็นตัวแสดงว่าราคาปิดนั้นสูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาเปิด พร้อมกับราคาสูงสุดและต่ำสุดที่อยู่ในช่วงเวลานั้นๆ
แผนภูมิเส้น (Line Chart): เป็นวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลดีในการมองภาพแนวโน้มของราคา แผนภูมิเส้นจะเชื่อมต่อราคาปิดของแต่ละช่วงเวลาเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถลดความซับซ้อนที่มีในแผนภูมิแท่งเทียนลงไปได้บ้าง
แผนภูมิแท่ง (Bar Chart): คล้ายกับแผนภูมิแท่งเทียน แต่จะมีเส้นแนวนอนเล็กๆ อยู่ด้วยเพื่อระบุราคาเปิดและปิดของแต่ละช่วงเวลาอย่างชัดเจน
2. แนวคิดหลักของแผนภูมิ
กรอบเวลา (Timeframes): เลือกกรอบเวลาที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการเทรดของคุณมากที่สุด เดย์เทรดเดอร์อาจจะเน้นไปที่แผนภูมิ 15 นาที หรือแผนภูมิรายชั่วโมง นักเทรดแบบสวิงอาจดูแผนภูมิรายวันหรือรายสัปดาห์ และนักลงทุนระยะยาวยิ่งขึ้นก็จะดูกรอบเวลาแบบรายสัปดาห์หรือรายเดือน
แนวโน้ม (Trends): ระบุทิศทางหลักของตลาด
แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): ราคาจะสร้างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม
แนวโน้มขาลง (Downtrend): ราคาจะสร้างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลงกว่าเดิม
แนวโน้มด้านข้าง (Sideways): ราคาจะเคลื่อนไหวในช่วงราคาที่กำหนดไว้
แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance):
แนวรับ (Support): ระดับราคาที่แรงซื้อมีแนวโน้มที่จะหยุดการลดลงได้
แนวต้าน (Resistance): ระดับราคาที่แรงขายมีแนวโน้มที่จะหยุดการเพิ่มขึ้นได้
3. ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคพื้นฐาน
แม้ว่าคุณจะสามารถวิเคราะห์แผนภูมิได้ด้วยสายตา แต่ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคจะช่วยเพิ่มมิติของความเป็นกลางให้มากขึ้น ตัวบ่งชี้ที่มือใหม่นิยมใช้กันมีดังนี้:
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages): ทำให้ข้อมูลราคาไม่แกว่งมากเกินไปเพื่อช่วยระบุแนวโน้มรวมทั้งระดับแนวรับ/แนวต้านที่อาจเกิดขึ้น ตัวเลือกที่ใช้กันทั่วไปได้แก่ moving average 50 วัน หรือ 200 วัน
ดัชนีวัดความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength Index – RSI): วัดว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (overbought) หรือขายมากเกินไป (oversold) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
MACD (Moving Average Convergence Divergence): ช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัม
วิธีนำสิ่งนี้ไปใช้กับการเทรด XAUUSD
การเทรดตามเทรนด์ (Trend Trading): ถ้า XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ให้มองหาโอกาสในการซื้อใกล้กับแนวรับหรือตามรูปแบบแท่งเทียนแนวโน้มขาขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นขาลง มองหาโอกาสในการขายใกล้กับแนวต้านหรือตามรูปแบบแท่งเทียนแนวโน้มขาลง
การ Breakout และการ Retracement: ระบุการ breakout เหนือแนวต้านหรือต่ำกว่าแนวรับเพื่อหาจุดเข้าเทรดที่อาจจะเกิดขึ้น หรืออีกหนึ่งวิธีคือให้มองหาการ retracement กลับไปยังระดับราคาสำคัญๆ ในระหว่างขาของแนวโน้มเพื่อเข้าสู่แนวโน้มที่มีอยู่เดิม
จุดสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้น
เริ่มต้นแบบง่ายๆ: เริ่มจากอินดิเคเตอร์หนึ่งหรือสองตัว แล้วศึกษามันให้เข้าใจ
ฝึกฝน: ใช้บัญชีทดลองหรือข้อมูลในอดีตเพื่อฝึกอ่านแผนภูมิ ระบุรูปแบบ และใช้ตัวบ่งชี้
ผสมผสานกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: อย่าเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ข่าวสารและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เป็นตัวขับเคลื่อน XAUUSD (ดังที่อธิบายไว้ในบทความก่อนหน้านี้)
สนใจคอร์สเรียน สัมมนาฟรี และข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
Facebook: Bravo Trade Academy Global
YouTube: Bravo Trade Academy
Line@: BravoTradeAcademy
Instagram: Bravotradeacademy
TikTok: @bravo_tradeacademy
Twitter: Toeybravo
Website: www.bravotradeacademy.com