สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่นั้น หนึ่งในวิธีที่อาจช่วยให้คุณเทรดได้เทียบเท่ากับเทรดเดอร์มืออาชีพหรือคนที่มีชั่วโมงบินมากกว่านั่นก็คือวิธีการ Backtest นั่นก็คือการเข้าไปศึกษากราฟของคนเก่ง ๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อย่างเช่น คุณเป็นคนที่เพิ่งเทรดมาได้แค่สามเดือน แต่ถ้าลองเข้าไปศึกษาเรียนรู้ดูทุก Timeframe ของคนที่เทรดมาแล้ว 8 ปี นั่นอาจทำให้คุณเก่งเท่ากันกับเค้าได้ภายในปีเดียว
แต่ในโลกของ Forex ถึงเราจะใช้ทางลัด แต่จะลัดโดยไม่มีความรู้เลยก็ไม่ได้ บทความนี้เลยอยากจะขอพาคุณไปรู้จักกับแนวคิดของ Michael Bamber เทรดเดอร์ชาวอังกฤษที่มีประสบการณ์มากกว่า 6 ปี ซึ่งได้แชร์ประสบการณ์จากการลองผิดลองถูกของเขามากว่า 5 ปี และที่น่าสนใจก็คือเขาได้ลองผิดลองถูกใน 5 อย่าง โดยใช้เวลาอย่างละ 1 ปีเลยทีเดียว ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเท่ากับเขา และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในตอนนี้ไปอีกเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นไปดูกันเลย
จัดการความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ
Michael Bamber บอกว่าต้องเริ่มจากการวางแผนและตั้งกฎในการเทรดให้กับตัวเองอย่างที่มั่นใจได้ว่ามีประสิทธิภาพ แล้วก็เทรดตามกฎที่วางไว้ ซึ่งสามารถที่จะลดความเสี่ยงที่จะทำให้พอร์ตแตกได้ เพราะการที่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดีโอกาสที่พอร์ตจะแตกหรือขาดทุนเป็นจำนวนมากจะเกิดขึ้นได้ยาก ยกเว้นไม่ได้เทรดตามสิ่งที่วางเอาไว้
ถ้าหากมีการวางแผนทุก ๆ อย่าง ต่อให้มีการขาดทุน Michael Bamber บอกว่ามันก็ยังช่วยให้สภาพจิตใจของเราไม่ย่ำแย่ เพราะว่าทุกอย่างเรามีการคำนวณเอาไว้อยู่แล้ว เช่น เรามีการวางแผนว่าจะเทรดขาดทุนหนึ่งออเดอร์ ออเดอร์นั้นจะติดลบ 50% อะไรแบบนี้ก็คงไม่มีใครยอมให้มันเกิดขึ้น เพราะถ้าเราวางแผนก็จะรู้ว่าสามารถยอมเสี่ยงได้ที่เท่าไหร่ จุดไหนที่เสี่ยงแล้วไม่เครียดจนเกินไป
ถ้ามีการวางแผนและปฏิบัติตามแผนความเสี่ยงที่วางไว้ โอกาสที่จะอยู่รอดในระยะยาวก็มีสูง เพราะสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ต่อการที่จะยืนระยะในตลาดนี้ได้นั่นก็คือเรื่องของการจัดการความเสี่ยง ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงจึงเป็นรากฐานสำคัญอันดับแรกในการเทรดให้อยู่รอด เพราะลองคิดดูว่าต่อให้ทำกำไรได้เป็นร้อยเป็นพันเด้ง มันจะมีค่าอะไรถ้าหากผ่านไปวันสองวันแล้วขาดทุนหมด นี่เลยเป็นสิ่งที่สำคัญต่อพอร์ตของเรา ถ้าอยากอยู่รอดในตลาดฟอเร็กซ์ได้อย่างยาวนาน
เรายังมีเนื้อหาที่อยากแนะนำเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงอีก ซึ่งสามารถเข้าไปอ่านได้ในบทความการเทรด Forex และการจัดการความเสี่ยงให้ขาดทุนน้อยที่สุด
เปิดรับความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ
Michael Bamber บอกว่าเขาจะยอมเสี่ยงสูงสุดที่ 1% ต่อ 1 ออเดอร์เท่านั้น อย่างถ้าหากมีทุนอยู่ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ การที่ไปเปิดออเดอร์นึงเขาจะยอมให้ติดลบเพียง 1 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้นเอง ดังนั้นการที่จะเข้าซื้อแต่ละครั้ง ต้องคำนวณทุกครั้งเลยว่า SL (Stop Loss) ของเราอยู่ตรงไหน และถ้าหากว่าโดน SL (Stop Loss) จะเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ เพราะหากเป็นเงินจำนวนเกิน 1% ก็จัดได้ว่าเสี่ยงเกินไปแล้ว สิ่งที่ควรทำคือขยับ SL (Stop Loss) เข้ามา หรือลด Lot ให้เล็กลง
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าออเดอร์ที่เราเข้านี้ ถ้าหากไปโดนราคาเท่านั้นเท่านี้มันจะเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ หลายคนอาจจะคิดว่าค่อนข้างยุ่งยากในการคำนวณ ใช่แล้วมันค่อนข้างยุ่งยากแต่ไม่ต้องกังวล ซึ่ง Michael Bamber ก็บอกว่าเขาจะเทรดมากที่สุดเพียง 3 คู่สกุลเงินเท่านั้น จะไม่เทรดมากว่านี้ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นเรื่องของโฟกัส เพราะถ้าเกิดเทรดมากกว่านี้การโฟกัสอาจจะหลุด บางทีอาจจะมีข้อผิดพลาดบางอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นก็ได้
กำหนดความเสี่ยงสูงสุดแบบรายวัน
Michael Bamber บอกว่าความเสี่ยงสูงสุดต่อออเดอร์ของเขาคือ 1% แต่ถ้ารายวันอาจจะขาดทุนได้มากกว่านั้น ตรงนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแต่สิ่งหนึ่งที่ควรมีก็คือการตั้งลิมิทการขาดทุนต่อวัน เช่น มีทุนอยู่ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ ก็อาจจะตั้งธงไว้ว่าวันนี้จะขาดทุนไม่เกิน 2% หรือ 2 ดอลล่าร์สหรัฐ เราควรจะมีการตั้งการขาดทุนแบบรายวันเอาไว้ เพราะว่าจะมีเรื่องของจิตวิทยาในการเทรดตามมา
ถ้าหากไม่มีการตั้งการขาดทุนเอาไว้ต่อวัน มักจะมีอารมณ์นึงเกิดขึ้นในตอนที่เราขาดทุนนั่นก็คืออารมณ์ “การเทรดแบบแก้แค้น” บางทีอาจจะ Over Lot และแน่นอน Over Lot ก็คือความเสี่ยง และสุดท้ายก็มักจะจบไม่สวย ดังนั้นการตั้งลิมิทการขาดทุนเอาไว้ในแต่ละวันก็ถือเป็นเทคนิคการควบคุมอารมณ์ Bamber บอกว่ามันจะช่วยให้เราเทรดไปตามระบบ เพราะถ้าเกิดว่าเราไม่มีการตั้งลิมิทการขาดทุนในแต่ละวัน บางทีการเทรดของเรามันก็จะเต็มไปด้วยอารมณ์ และอาจจะเกิดการเทรดแบบแก้แค้นได้
ซึ่งเราก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ในการเทรดอีกด้วยเช่นกัน เข้าไปอ่านได้ในบทความการควบคุมอารมณ์ : จิตวิทยาของการเทรด Forex
วางกลยุทธ์ที่หลากหลายในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
ในตลาดฟอเร็กซ์ Michael Bamber บอกว่าคุณไม่สามารถที่จะยึดติดกับกลยุทธ์เดียวเพื่อไปใช้ทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด เพราะว่าแต่ละกลยุทธ์ก็จะมีจุดอ่อน จุดแข็งที่แตกต่างกัน บางกลยุทธ์ทำกำไรได้ดีกับสภาวะตลาดที่เป็นเทรนด์ แต่ขาดทุนเมื่อตลาดเป็น Sideway ส่วนบางกลยุทธ์ก็สามารถทำกำไรได้ดีในเวลาที่ตลาดค่อนข้างนิ่ง แต่พอตลาดเริ่มผันผวนก็เริ่มที่จะทำกำไรไม่ได้ แล้วก็อาจจะขาดทุนด้วย
จากตรงนี้บอกได้เลยว่าไม่มีระบบหรือกลยุทธ์ไหนที่จะทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด Bamber บอกว่าเขาใช้วิธีการเทรด 2-3 ครั้ง ในหนึ่งกลยุทธ์ หากไม่เวิร์คก็หมายความว่าควรจะเปลี่ยนกลยุทธ์ได้แล้ว คือกลยุทธ์ที่ใช้เทรดอยู่ไม่เหมาะกับสภาวะตลาดปัจจุบันนั่นเอง
หากว่ามีกลยุทธ์นึงสามารถทำกำไรได้ดีในเวลาที่ผ่านมาหลายเดือน แต่ตอนนี้เทรดยังไงก็ไม่ได้กำไร ยังไงก็ขาดทุน Bamber จะให้โอกาสกลยุทธ์นี้สัก 2-3 ครั้ง ถ้ามันยังไม่เวิร์คอีกก็เปลี่ยนกลยุทธ์ดีกว่า เพราะตอนนี้สภาวะตลาดอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว กลยุทธ์ที่เราเคยได้กำไรจากมัน อาจจะทำกำไรจากมันไม่ได้แล้วนั่นเอง
โดยที่เราก็มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธด้วยเช่นกัน สามารถเข้าไปอ่านได้ในบทความวิธีการพัฒนากลยุทธ์การเทรด Forex
รักษา Drawdown ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา
ก่อนอื่นต้องขอยกตัวอย่าง Drawdown กันแบบคร่าว ๆ ก่อน เช่น ถ้าหากมีทุนอยู่ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ การที่มี Drawdown 50% หมายความว่าพอร์ตของเราเคยติดลบถึง 50% หรือพอร์ตของคุณเคยหายไปครึ่งนึงเลยทีเดียว ต่อให้ได้กำไรเท่าไหร่ แต่ Drawdown ตรงนี้ก็ยังอยู่
Drawdown ตรงนี้จะทำให้เห็นภาพความเสี่ยงของพอร์ตได้ และถ้าหากเข้าใจในเรื่องของ Drawdown ตอนนั้นก็จะโฟกัสเรื่องของความเสี่ยงเป็นพิเศษว่าความเสี่ยงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการเทรด Michael Bamber จึงแนะนำว่าควรรักษา Drawdown ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมของตัวเอง คือสามารถเทรดให้มีความเสี่ยงได้มากที่สุดเท่าไหร่ ก็คือเริ่มจากการตั้ง Drawdown ของตัวคุณไว้ก่อนว่าอยากที่จะให้มี Drawdown ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์
บทสรุป
การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของความเสี่ยงก็เท่ากับการลดความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ และจากประสบการณ์ที่ Michael Bamber ได้นำออกมาแชร์ก็เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณอยากที่จะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่ก้าวไปสู่มืออาชีพได้อย่างยั่งยืนและประหยัดเวลาได้มากกว่า Michael Bamber ที่ Bravo Trade Academy เรามีคอร์สสูตรลับวิชามาร ปั้นพอร์ตปัง 1,000% ที่จะทำให้คุณรู้วิธีคิดของคน 1% ที่ประสบความสำเร็จแล้ว ที่แตกต่างจากคน 99% ที่กำลังอยากที่จะประสบความสำเร็จอยู่
Source: Michael Bamber
สนใจคอร์สเรียน สัมมนาฟรี และข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
Facebook: Bravo Trade Academy Global
YouTube: Bravo Trade Academy
Line@: BravoTradeAcademy
Instagram: Bravotradeacademy
TikTok: @bravo_tradeacademy
Twitter: Toeybravo
Website: www.bravotradeacademy.com